Open Large Modal
×
เข้าสู่ระบบเพื่อติดตามการแจ้งเหตุ
ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
forgotpassword?
login
เข้าสู่ระบบเพื่อค้นหาและดูรายงานสรุป
เรื่องร้องเรียนร้องทุกข์
(สำหรับเจ้าหน้าที่เท่านั้น)
ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
login
เข้าสู่ระบบ
สำหรับเจ้าหน้าที่ดูแลเว็บไซต์
เข้าสู่ระบบ
หน้าหลัก
ข้อมูลเทศบาล
ข้อมูลพื้นฐาน
ประวัติความเป็นมา
วิสัยทัศน์/พันธกิจ
ตราสัญลักษณ์
อำนาจหน้าที่
สำนักปลัดเทศบาล
กองคลัง
กองช่าง
กองการศึกษาฯ
กองสวัสดิการสังคม
นโยบายผู้บริหาร
เจตจำนงสุจริตของผู้บริหาร
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ระบบฐานข้อมูลการบริหารจัดการ ทต.แสลงพัน (Back Office) (เจ้าหน้าที่)
ข้อมูลผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส
ยุทธศาสตร์/แผนงาน
แผนพัฒนาท้องถิ่น
การประเมินผลแผนพัฒนา
แผนดำเนินการประจำปี
แผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริตประจำปี
แผนจัดหาพัสดุ
แผนการใช้จ่ายงบประมาณ
แผนการส่งเสริมการท่องเที่ยว
แผนบริหารความเสี่ยง
บุคลากร
โครงสร้างองค์กร
รู้จักนายก
คณะผู้บริหาร
สภาเทศบาล
หัวหน้าส่วนราชการ
พนักงานเทศบาล
แหล่งท่องเที่ยว
ที่พัก
ร้านอาหาร
ผลิตภัณฑ์ตำบล
สถานที่สำคัญ
ข่าว/กิจกรรม
ข่าวสาร
ข่าวประชาสัมพันธ์
จดหมายข่าว"แสลงพันนิวส์
ข่าวจัดซื้อจัดจ้าง
ข่าวจาก Facebook
ข่าวสารในเครือข่าย อปท.
ปฏิทินกิจกรรม
ปฏิทินกิจกรรมผู้บริหาร
ปฎิทินกิจกรรมหน่วยงาน
ผลงานเด่น
กิจกรรม
วีดีโอ
เอกสาร/รายงาน
รายงาน
รายงานการคลัง
รายงานผลการดำเนินงาน
รายงานประชุมสภา ทต.
รายงานการประชุมคณะผู้บริหารท้องถิ่น
รายงานผลตรวจสอบจาก สตง./ป.ป.ช./ป.ป.ท./สถ.
รายงานการประเมินประสิทธิภาพของ อปท. (LPA)
รายงานผลการป้องกันการทุจริต
รายงานผลการประเมิน ITA
รายงานผลการดำเนินการจัดการความเสี่ยงการทุจริต
รายงานผลการประเมินขั้นต่ำการจัดการบริการสาธารณะ
จัดซื้อจัดจ้าง
เทศบัญญัติ
การบริหารงานทรัพยากรบุคคล
คู่มือ/มาตรฐานการทำงาน
ผลสำรวจความพึงพอใจของประชาชน
การจัดการองค์ความรู้ KM
งานกิจการสภา
ดาวน์โหลดแบบฟอร์มต่างๆ
รางวัล
คู่มือสำหรับประชาชน
การลดขั้นตอนฯ
ระบบให้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service)
งานประเมินความโปร่งใส (ITA)
สาระน่ารู้
ฐานข้อมูลต่างๆ
ติดต่อเรา
ติดต่อเทศบาล
ที่ตั้งสำนักงาน
สายตรงนายก
เบอร์โทรศัพท์ของส่วนราชการ
เบอร์โทรศัพท์ของส่วนราชการ
แจ้งเรื่องราวร้องทุกข์
รับฟังความคิดเห็น
รับเรื่องราวร้องเรียน
ศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียน
ร้องเรียน/ร้องทุกข์
ร้องเรียนทุจริตประพฤติมิชอบ
สถิติการให้บริการ
ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร เทศบาลตำบลแสลงพัน
แบบสอบถามความพึงพอใจ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
กระดานสนทนา
กระดานสนทนา (Web Board)
กระดานสนทนาในเครือข่าย
ลงทะเบียน
/
เข้าสู่ระบบ
ปรับขนาดตัวอักษร
ก
ก
ก
โหมดการเข้าถึงสำหรับผู้พิการ
ภาษา
TH
EN
MY
CN
TL
ID
JP
KM
KO
LO
MS
VI
AR
ลงทะเบียน/เข้าสู่ระบบ
หน้าหลัก
ข้อมูลเทศบาล
ข้อมูลพื้นฐาน
ประวัติความเป็นมา
วิสัยทัศน์/พันธกิจ
ตราสัญลักษณ์
อำนาจหน้าที่
สำนักปลัดเทศบาล
กองคลัง
กองช่าง
กองการศึกษาฯ
กองสวัสดิการสังคม
นโยบายผู้บริหาร
เจตจำนงสุจริตของผู้บริหาร
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ระบบฐานข้อมูลการบริหารจัดการ ทต.แสลงพัน (Back Office) (เจ้าหน้าที่)
ข้อมูลผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส
ยุทธศาสตร์/แผนงาน
แผนพัฒนาท้องถิ่น
การประเมินผลแผนพัฒนา
แผนดำเนินการประจำปี
แผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริตประจำปี
แผนจัดหาพัสดุ
แผนการใช้จ่ายงบประมาณ
แผนการส่งเสริมการท่องเที่ยว
แผนบริหารความเสี่ยง
บุคลากร
โครงสร้างองค์กร
รู้จักนายก
คณะผู้บริหาร
สภาเทศบาล
หัวหน้าส่วนราชการ
พนักงานเทศบาล
แหล่งท่องเที่ยว
ที่พัก
ร้านอาหาร
ผลิตภัณฑ์ตำบล
สถานที่สำคัญ
ข่าว/กิจกรรม
ข่าวสาร
ข่าวประชาสัมพันธ์
จดหมายข่าว"แสลงพันนิวส์
ข่าวจัดซื้อจัดจ้าง
ข่าวจาก Facebook
ข่าวสารในเครือข่าย อปท.
ปฏิทินกิจกรรม
ปฏิทินกิจกรรมผู้บริหาร
ปฎิทินกิจกรรมหน่วยงาน
ผลงานเด่น
กิจกรรม
วีดีโอ
เอกสาร/รายงาน
รายงาน
รายงานการคลัง
รายงานผลการดำเนินงาน
รายงานประชุมสภา ทต.
รายงานการประชุมคณะผู้บริหารท้องถิ่น
รายงานผลตรวจสอบจาก สตง./ป.ป.ช./ป.ป.ท./สถ.
รายงานการประเมินประสิทธิภาพของ อปท. (LPA)
รายงานผลการป้องกันการทุจริต
รายงานผลการประเมิน ITA
รายงานผลการดำเนินการจัดการความเสี่ยงการทุจริต
รายงานผลการประเมินขั้นต่ำการจัดการบริการสาธารณะ
จัดซื้อจัดจ้าง
เทศบัญญัติ
การบริหารงานทรัพยากรบุคคล
คู่มือ/มาตรฐานการทำงาน
ผลสำรวจความพึงพอใจของประชาชน
การจัดการองค์ความรู้ KM
งานกิจการสภา
ดาวน์โหลดแบบฟอร์มต่างๆ
รางวัล
คู่มือสำหรับประชาชน
การลดขั้นตอนฯ
ระบบให้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service)
งานประเมินความโปร่งใส (ITA)
สาระน่ารู้
ฐานข้อมูลต่างๆ
ติดต่อเรา
ติดต่อเทศบาล
ที่ตั้งสำนักงาน
สายตรงนายก
เบอร์โทรศัพท์ของส่วนราชการ
เบอร์โทรศัพท์ของส่วนราชการ
แจ้งเรื่องราวร้องทุกข์
รับฟังความคิดเห็น
รับเรื่องราวร้องเรียน
ศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียน
ร้องเรียน/ร้องทุกข์
ร้องเรียนทุจริตประพฤติมิชอบ
สถิติการให้บริการ
ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร เทศบาลตำบลแสลงพัน
แบบสอบถามความพึงพอใจ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
กระดานสนทนา
กระดานสนทนา (Web Board)
กระดานสนทนาในเครือข่าย
หน้าหลัก
ข่าวประชาสัมพันธ์
ข่าวประชาสัมพันธ์
เลือกหมวดหมู่
ข่าวประชาสัมพันธ์
ข่าวจัดซื้อจัดจ้าง
ข่าวรับสมัครงาน
ข่าวจาก Facebook
จดหมายข่าว"แสลงพันนิวส์
ข่าวเลือกตั้ง
เรียงลำดับข้อมูล
ดูเยอะที่สุด
ดูน้อยที่สุด
เลือกช่วงเวลา
ตั้งแต่เดือน
เลือกเดือน
มกราคม
กุมภาพันธ์
มีนาคม
เมษายน
พฤษภาคม
มิถุนายน
กรกฎาคม
สิงหาคม
กันยายน
ตุลาคม
พฤศจิกายน
ธันวาคม
ปี
เลือกปี
2568
2567
2566
2565
2564
2563
2562
2561
2560
2559
2558
ถึงเดือน
เลือกเดือน
มกราคม
กุมภาพันธ์
มีนาคม
เมษายน
พฤษภาคม
มิถุนายน
กรกฎาคม
สิงหาคม
กันยายน
ตุลาคม
พฤศจิกายน
ธันวาคม
ปี
เลือกปี
2568
2567
2566
2565
2564
2563
2562
2561
2560
2559
2558
ค้นหา
จำนวนข่าวประชาสัมพันธ์ ทั้งหมด 337 รายการ
อย่าลืม!!มาชำระภาษีกันนะ ครบกำหนดชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภายในวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568
อย่าลืม!!มาชำระภาษีกันนะ ครบกำหนดชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภายในวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 #จ่ายช้าปรับสูงสุด40% สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม งานพัฒนารายได้ กองคลัง เทศบาลตำบลแสลงพัน โทร. 036 730 441 ต่อ 02 , 062 595 9531 Line ID : slp213 จ่ายภาษีได้ที่ไหน สามารถชำระภาษีได้จาก 2 ช่องทาง 1.กองคลัง เทศบาลตำบลแสลงพัน 2.ชำระผ่านบัญชีธนาคารเทศบาล (โทรสอบถามก่อน) จ่ายช้าโดนปรับ หากผู้เสียภาษีไม่มาชำระภายในเวลาที่กำหนด คือ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 จะต้องเสียภาษี รวมทั้ง "เสียเบี้ยปรับ" ขั้นต่ำ 10% สูงสุด 40% และ "เงินเพิ่ม" อีก 1% ของยอดภาษีค้างชำระ เบี้ยปรับ 10% หากชำระก่อนออกหนังสือเตือน เบี้ยปรับ 20% หากชำระภายในวันที่กำหนดตามตามหนังสือแจ้งเดือน เบี้ยปรับ 40% หากชำระเกินวันที่กำหนดไว้ในหนังสือแจ้งเตือน หากไม่ชำระภาษีภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถูกระงับการทำธุรกรรมซื้อขายที่ดินกับสำนักงานที่ดิน
27 มิถุนายน 2568
6
แชร์
วันสุนทรภู่ ตรงกับวันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี
#วันสุนทรภู่ ตรงกับวันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี สุนทรภู่ เป็นกวีเอก 4 แผ่นดินของประเทศไทย ที่มีผลงานที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น นิราศเมืองแกลง นิราศภูเขาทอง นิราศอิเหนา นิทานเรื่องพระอภัยมณี สุภาษิตสอนหญิง บทเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน เป็นต้น จากผลงานของสุนทรภู่ เรามาตามชีวประวัติ กวีเอกของไทย เรื่องราวชีวิตกวี 4 แผ่นดิน และผลงานอันทรงคุณค่ากันค่ะ ประวัติสุนทรภู่ พระสุนทรโวหาร นามเดิม ภู่ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า สุนทรภู่ (26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 - พ.ศ. 2398) เป็นอาลักษณ์ชาวไทยที่มีชื่อเสียงเชิงกวี ได้รับยกย่องเป็น เชกสเปียร์แห่งประเทศไทย เกิดหลังจากตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ได้ 4 ปี และได้เข้ารับราชการเป็นอาลักษณ์ราชสำนักในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อสิ้นรัชกาลได้ออกบวชเป็นเวลาร่วม 20 ปี ก่อนจะกลับเข้ารับราชการอีกครั้งในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยเป็นอาลักษณ์ในสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น พระสุนทรโวหาร เจ้ากรมอาลักษณ์ฝ่ายพระราชวังบวร ซึ่งเป็นตำแหน่งราชการสุดท้ายก่อนสิ้นชีวิต สุนทรภู่เป็นกวีที่มีความชำนาญทางด้านกลอน ได้สร้างขนบการประพันธ์กลอนนิทานและกลอนนิราศขึ้นใหม่จนกลายเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางสืบเนื่องมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ผลงานที่มีชื่อเสียงของสุนทรภู่มีมากมายหลายเรื่อง เช่น นิราศภูเขาทอง นิราศสุพรรณ เพลงยาวถวายโอวาท กาพย์พระไชยสุริยา และ พระอภัยมณี เป็นต้น โดยเฉพาะเรื่อง พระอภัยมณี ได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็นยอดของวรรณคดีประเภทกลอนนิทาน และเป็นผลงานที่แสดงถึงทักษะ ความรู้ และทัศนะของสุนทรภู่อย่างมากที่สุด งานประพันธ์หลายชิ้นของสุนทรภู่ได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรการเรียนการสอนนับแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน เช่น กาพย์พระไชยสุริยา นิราศพระบาท และอีกหลายๆ เรื่อง ปี พ.ศ. 2529 ในโอกาสครบรอบ 200 ปีชาตกาล สุนทรภู่ได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านงานวรรณกรรม ผลงานของสุนทรภู่ยังเป็นที่นิยมในสังคมไทยอย่างต่อเนื่องตลอดมาไม่ขาดสาย และมีการนำไปดัดแปลงเป็นสื่อต่างๆ เช่น หนังสือการ์ตูน ภาพยนตร์ เพลง รวมถึงละคร มีการก่อสร้างอนุสาวรีย์สุนทรภู่ไว้ที่ตำบลกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง บ้านเกิดของบิดาของสุนทรภู่ และเป็นที่กำเนิดผลงานนิราศเรื่องแรกของท่านคือ นิราศเมืองแกลง นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์แห่งอื่นๆ อีก เช่น ที่วัดศรีสุดาราม ที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดนครปฐม วันเกิดของสุนทรภู่คือวันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี ถือเป็น วันสุนทรภู่ ซึ่งเป็นวันสำคัญด้านวรรณกรรมของไทย มีการจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติคุณและส่งเสริมศิลปะการประพันธ์บทกวีจากองค์กรต่างๆ โดยทั่วไป สุนทรภู่ มีชื่อเดิมว่า ภู่ เกิดในสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันจันทร์ เดือน 8 ขึ้น 1 ค่ำ ปีมะเมีย จุลศักราช 1148 เวลาเช้า 2 โมง (ตรงกับวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2329) ณ บริเวณด้านเหนือของพระราชวังหลัง ซึ่งเป็นบริเวณสถานีรถไฟบางกอกน้อยปัจจุบันนี้ เชื่อว่าหลังจากสุนทรภู่เกิดได้ไม่นาน บิดามารดาก็หย่าร้างกัน บิดาออกไปบวชอยู่ที่วัดป่ากร่ำอันเป็นภูมิลำเนาเดิม ส่วนมารดาได้เข้าไปอยู่ในพระราชวังหลัง ถวายตัวเป็นนางนมของพระองค์เจ้าหญิงจงกล พระธิดาในเจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ ดังนั้นสุนทรภู่จึงได้อยู่ในพระราชวังหลังกับมารดา และได้ถวายตัวเป็นข้าในกรมพระราชวังหลัง สุนทรภู่ยังมีน้องสาวต่างบิดาอีกสองคน ชื่อฉิมและนิ่ม เชื่อกันว่า ในวัยเด็กสุนทรภู่ได้ร่ำเรียนหนังสือกับพระในสำนักวัดชีปะขาว (ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานนามในรัชกาลที่ 4 ว่า วัดศรีสุดาราม อยู่ริมคลองบางกอกน้อย) ตามเนื้อความส่วนหนึ่งที่ปรากฏใน นิราศสุพรรณ ต่อมาได้เข้ารับราชการเป็นเสมียนนายระวางกรมพระคลังสวน ในกรมพระคลังสวน แต่ไม่ชอบทำงานอื่นนอกจากแต่งบทกลอน ซึ่งสามารถแต่งได้ดีตั้งแต่ยังรุ่นหนุ่ม จากสำนวนกลอนของสุนทรภู่ เชื่อว่าผลงานที่มีการประพันธ์ขึ้นก่อนสุนทรภู่อายุได้ 20 ปี (คือก่อน นิราศเมืองแกลง) เห็นจะได้แก่กลอนนิทานเรื่อง โคบุตร สุนทรภู่ ลอบรักกับนางข้าหลวงในวังหลังคนหนึ่ง ชื่อแม่จัน ชะรอยว่าหล่อนจะเป็นบุตรหลานผู้มีตระกูล จึงถูกกรมพระราชวังหลังกริ้วจนถึงให้โบยและจำคุกคนทั้งสอง แต่เมื่อกรมพระราชวังหลังเสด็จทิวงคตในปี พ.ศ. 2349 จึงมีการอภัยโทษแก่ผู้ถูกลงโทษทั้งหมดถวายเป็นพระราชกุศล หลังจากสุนทรภู่ออกจากคุกก็เดินทางไปหาบิดาที่เมืองแกลง จังหวัดระยอง การเดินทางครั้งนี้สุนทรภู่ได้แต่ง นิราศเมืองแกลง พรรณนาสภาพการเดินทางต่างๆ เอาไว้โดยละเอียด และลงท้ายเรื่องว่า แต่งมาให้แก่แม่จัน "เป็นขันหมากมิ่งมิตรพิสมัย" ในนิราศได้บันทึกสมณศักดิ์ของบิดาของสุนทรภู่ไว้ด้วยว่า เป็น "พระครูธรรมรังษี" เจ้าอาวาสวัดป่ากร่ำ กลับจากเมืองแกลงคราวนี้ สุนทรภู่จึงได้แม่จันเป็นภรรยา แต่กลับจากเมืองแกลงเพียงไม่นาน สุนทรภู่ต้องติดตามพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ในฐานะมหาดเล็กตามเสด็จไปในงานพิธีมาฆบูชาที่พระพุทธบาท (เขตจังหวัดสระบุรีในปัจจุบัน) เมื่อปี พ.ศ. 2350 สุนทรภู่ได้แต่ง นิราศพระบาท พรรณนาเหตุการณ์ในการเดินทางคราวนี้ด้วย สุนทรภู่กับแม่จันมีบุตรด้วยกัน 1 คน ชื่อหนูพัด ได้อยู่ในความอุปการะของเจ้าครอกทองอยู่ ส่วนหนุ่มสาวทั้งสองมีเรื่องระหองระแหงกันเสมอ จนภายหลังก็เลิกรากันไป หลังจาก นิราศพระบาท ที่สุนทรภู่แต่งในปี พ.ศ. 2350 ไม่ปรากฏผลงานใดๆ ของสุนทรภู่อีกเลยจนกระทั่งเข้ารับราชการในปี พ.ศ. 2359 การเข้ารับราชการของสุนทรภู่ สุนทรภู่ ได้เข้ารับราชการในกรมพระอาลักษณ์เมื่อ พ.ศ. 2359 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 2 มูลเหตุในการได้เข้ารับราชการนี้ ไม่ปรากฏแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าอาจแต่งโคลงกลอนได้เป็นที่พอพระทัย ทราบถึงพระเนตรพระกรรณจึงทรงเรียกเข้ารับราชการ แนวคิดหนึ่งว่าสุนทรภู่เป็นผู้แต่งกลอนในบัตรสนเท่ห์ ซึ่งปรากฏชุกชุมอยู่ในเวลานั้น อีกแนวคิดหนึ่งสืบเนื่องจาก "ช่วงเวลาที่หายไป" ของสุนทรภู่ ซึ่งน่าจะใช้วิชากลอนทำมาหากินเป็นที่รู้จักเลื่องชื่ออยู่ ชะรอยจะเป็นเหตุให้ถูกเรียกเข้ารับราชการก็ได้ เมื่อแรกสุนทรภู่รับราชการเป็นอาลักษณ์ปลายแถว มีหน้าที่เฝ้าเวลาทรงพระอักษรเพื่อคอยรับใช้ แต่มีเหตุให้ได้แสดงฝีมือกลอนของตัว เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงแต่งกลอนบทละครในเรื่อง "รามเกียรติ์" ติดขัดไม่มีผู้ใดต่อกลอนได้ต้องพระราชหฤทัย จึงโปรดให้สุนทรภู่ทดลองแต่ง ปรากฏว่าแต่งได้ดีเป็นที่พอพระทัย จึงทรงพระกรุณาฯ เลื่อนให้เป็น ขุนสุนทรโวหาร การต่อกลอนของสุนทรภู่คราวนี้เป็นที่รู้จักทั่วไป เนื่องจากปรากฏรายละเอียดอยู่ในพระนิพนธ์ ชีวิตและงานของสุนทรภู่ ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ บทกลอนในรามเกียรติ์ที่สุนทรภู่ได้แต่งในคราวนั้นคือ ตอนนางสีดาผูกคอตาย และตอนศึกสิบขุนสิบรถ ฉากบรรยายรถศึกของทศกัณฐ์ สุนทรภู่ได้เลื่อนยศเป็น หลวงสุนทรโวหาร ในเวลาต่อมา ได้รับพระราชทานบ้านหลวงอยู่ที่ท่าช้าง ใกล้กับวังท่าพระ และมีตำแหน่งเข้าเฝ้าเป็นประจำ คอยถวายความเห็นเกี่ยวกับพระราชนิพนธ์และพระนิพนธ์วรรณคดีเรื่องต่างๆ รวมถึงได้ร่วมในกิจการฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเป็นหนึ่งในคณะร่วมแต่ง ขุนช้างขุนแผน ขึ้นใหม่ ระหว่างรับราชการ สุนทรภู่ต้องโทษจำคุกเพราะถูกอุทธรณ์ว่าเมาสุราทำร้ายญาติผู้ใหญ่ แต่จำคุกได้ไม่นานก็โปรดพระราชทานอภัยโทษ เล่ากันว่าเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงติดขัดบทพระราชนิพนธ์เรื่องสังข์ทอง ไม่มีใครแต่งได้ต้องพระทัย ภายหลังพ้นโทษ สุนทรภู่ได้เป็นพระอาจารย์ถวายอักษรสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอาภรณ์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ 2 เชื่อว่าสุนทรภู่แต่งเรื่อง สวัสดิรักษา ในระหว่างเวลานี้ และในระหว่างรับราชการอยู่นี้ สุนทรภู่แต่งงานใหม่กับแม่นิ่ม มีบุตรด้วยกันหนึ่งคน ชื่อพ่อตาบ สุนทรภู่รับราชการอยู่เพียง 8 ปี เมื่อถึงปี พ.ศ. 2367 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จสวรรคต หลังจากนั้นสุนทรภู่ก็ออกบวช แต่จะได้ลาออกจากราชการก่อนออกบวชหรือไม่ยังไม่ปรากฏแน่ชัด แม้จะไม่ปรากฏโดยตรงว่าสุนทรภู่ได้รับพระบรมราชูปถัมภ์จากราชสำนักใหม่ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ก็ได้รับพระอุปถัมภ์จากพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์อื่นอยู่เสมอ เช่น ปี พ.ศ. 2372 สุนทรภู่ได้เป็นพระอาจารย์ถวายอักษรเจ้าฟ้ากลางและเจ้าฟ้าปิ๋ว พระโอรสในเจ้าฟ้ากุณฑลทิพยวดี ปรากฏความอยู่ใน เพลงยาวถวายโอวาท นอกจากนั้นยังได้อยู่ในพระอุปถัมภ์ของพระองค์เจ้าลักขณานุคุณ และกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ ซึ่งปรากฏเนื้อความในงานเขียนของสุนทรภู่บางเรื่องว่า สุนทรภู่แต่งเรื่อง พระอภัยมณี และ สิงหไตรภพ ถวาย สุนทรภู่บวชอยู่เป็นเวลา 18 ปี ระหว่างนั้นได้ย้ายไปอยู่วัดต่างๆ หลายแห่ง เท่าที่พบระบุในงานเขียนของท่านได้แก่ วัดเลียบ วัดแจ้ง วัดโพธิ์ วัดมหาธาตุ และวัดเทพธิดาราม งานเขียนบางชิ้นสื่อให้ทราบว่า ในบางปี ภิกษุภู่เคยต้องเร่ร่อนไม่มีที่จำพรรษาบ้างเหมือนกัน ผลจากการที่ภิกษุภู่เดินทางธุดงค์ไปที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ปรากฏผลงานเป็นนิราศเรื่องต่างๆ มากมาย และเชื่อว่าน่าจะยังมีนิราศที่ค้นไม่พบอีกเป็นจำนวนมาก โดยงานเขียนชิ้นสุดท้ายที่ภิกษุภู่แต่งไว้ก่อนลาสิกขาบท คือ รำพันพิลาป โดยแต่งขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพธิดาราม พ.ศ. 2385 ปี พ.ศ. 2385 ภิกษุภู่จำพรรษาอยู่ที่วัดเทพธิดาราม ที่มีกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพทรงอุปถัมภ์ คืนหนึ่งหลับฝันเห็นเทพยดาจะมารับตัวไป เมื่อตื่นขึ้นคิดว่าตนถึงฆาตจะต้องตายแล้ว จึงประพันธ์เรื่อง รำพันพิลาป พรรณนาถึงความฝันและเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ได้ประสบมาในชีวิต หลังจากนั้นก็ลาสิกขาบทเพื่อเตรียมตัวจะตาย ขณะนั้นสุนทรภู่มีอายุได้ 56 ปี หลังจากลาสิกขาบท สุนทรภู่ได้รับพระอุปถัมภ์จากเจ้าฟ้าน้อย หรือสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ รับราชการสนองพระเดชพระคุณทางด้านงานวรรณคดี สุนทรภู่แต่ง เสภาพระราชพงศาวดาร บทเห่กล่อมพระบรรทม และบทละครเรื่อง อภัยนุราช ถวาย รวมถึงยังแต่งเรื่อง พระอภัยมณี ถวายให้กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพด้วย เมื่อถึงปี พ.ศ. 2394 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต เจ้าฟ้ามงกุฎเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงสถาปนาเจ้าฟ้าน้อยขึ้นเป็น พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว สุนทรภู่จึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้ากรมอาลักษณ์ฝ่ายพระราชวังบวร มีบรรดาศักดิ์เป็น พระสุนทรโวหาร ช่วงระหว่างเวลานี้สุนทรภู่ได้แต่งนิราศเพิ่มอีก 2 เรื่อง คือ นิราศพระประธม และ นิราศเมืองเพชร สุนทรภู่พำนักอยู่ในเขตพระราชวังเดิม ใกล้หอนั่งของพระยามนเทียรบาล (บัว) มีห้องส่วนตัวเป็นห้องพักกั้นเฟี้ยมที่เรียกชื่อกันว่า "ห้องสุนทรภู่" เชื่อว่าสุนทรภู่พำนักอยู่ที่นี่ตราบจนถึงแก่อนิจกรรม เมื่อปี พ.ศ. 2398 สิริรวมอายุได้ 69 ปี Cr.sanook.com
26 มิถุนายน 2568
58
แชร์
วันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น "วันต่อต้านยาเสพติดโลก"
วันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น "วันต่อต้านยาเสพติดโลก" วันนี้เทศบาลฯ จึงมีเรื่องราวของวันต่อต้านยาเสพติดโลกมาบอกกันค่ะ... ยาเสพติด คือ สารเคมีที่มีผลต่ออารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมของผู้เสพ โดยออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท และทำให้ผู้เสพรู้สึกต้องการ ขาดไม่ได้ รวมถึงส่งผลกระทบข้างเคียงต่อร่างกาย ทำให้อ่อนเพลีย ร่างกายซูบผอม และมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย เมื่อใช้สารเสพติดเป็นระยะเวลานานๆ จะทำให้การตัดสินใจต่างๆ ช้าลง มีผลต่อการนอนหลับ การใช้ยาเสพติดจะทำให้ประชากรมีชีวิตที่แย่ลง รวมถึงกระบวนการค้าที่มีโทษตามกฎหมาย มีความเสี่ยงในคดีอาชญากรรมต่างๆ ด้วย ดังนั้นหากพบเห็นการค้ายาเสพติด แจ้งเบาะแสยาเสพติด สายด่วน ป.ป.ส. 1386 คําขวัญวันต่อต้านยาเสพติด 2568 "Stop Drugs, Start Power สร้างพลังไทย หยุดภัยยาเสพติด" ประวัติวันต่อต้านยาเสพติดโลก ประวัติวันยาเสพติดโลก “International Day against Drug Abuse and Illicit Trafficking” หรือ “World Drug Day” ที่มาของวันต่อต้านยาเสพติด เกิดจากปัญหาการใช้ยาเสพติดทั่วโลกมักส่งผลต่อสุขภาพ และชีวิต ของประชากร ทำให้เรื่องนี้ถูกนำเข้าที่ประชุมสหประชาชาติในปี พ.ศ. 2530 จัดขึ้นที่กรุงเวียนนาในระหว่าง วันที่ 17-26 มิถุนายน พ.ศ. 2530 การประชุมครั้งนี้ว่าด้วยเรื่องการใช้ยาในทางที่ผิด และการลักลอบใช้ยาเสพติด และประเทศต่างๆ ที่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก ก็ร่วมกันจัดกิจกรรม รณรงค์และต่อต้านยาเสพติดทั้งหน่วยงาน รัฐ เอกชน และภาคประชาชน เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า ปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาสำคัญที่ก่อภัยมหันต์ต่อมนุษยชาติทั่วโลก เพราะไม่เพียงแต่ยังบั่นทอนสุขภาพเท่านั้น แต่มันยังทำลายสติสัมปชัญญะ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่มนุษย์พึงมีออกไปเสียด้วย...ทุกประเทศทั่วโลกต่างพยายามร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว "สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ" จึงได้มีมติกำหนดให้ วันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี เป็น "วันต่อต้านยาเสพติดโลก" สำหรับประเทศไทยเอง ก็เป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติ ที่ได้แสดงเจตนารมณ์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกับประเทศสมาชิกอื่นๆ ทั่วโลก ด้วยการจัดกิจกรรมเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดเป็นประจำเสมอมา เพื่อเป็นการย้ำเตือนให้ประชาชนไทยเกิดความตระหนักถึงปัญหายาเสพติด และทุกคนควรมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาช้านาน จนกระทั่งใน พ.ศ. 2501 คณะปฏิวัติภายใต้การนำของจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ออกประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 37 ลงวันที่ 9 ธันวาคม 2501 ให้เลิกการสูบฝิ่นทั่วราชอาณาจักร โดยมีการเผาทำลายฝิ่นและอุปกรณ์การสูบฝิ่นที่ท้องสนามหลวง ในคืนวันที่ 30 มิถุนายน 2502 หลังจากนั้นปี พ.ศ. 2504 รัฐบาลได้จัดตั้ง "คณะกรรมการปราบปรามยาเสพติดให้โทษ" ใช้ชื่อย่อว่า ปปส. สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีโดยมีอธิบดีกรมตำรวจเป็นประธาน และมีผู้แทนจากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ ต่อมาในสมัยนายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรีรัฐบาลได้เล็งเห็นว่า การปราบปรามยาเสพติดไม่สามารถแก้ไขได้โดยการดำเนินการเฉพาะกรมตำรวจฝ่ายเดียว จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2519 ต่อสภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน และประกาศใช้เป็นกฎหมายเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2519 พระราชบัญญัติดังกล่าวได้กำหนดให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหรือเรียกชื่อย่อว่า ป.ป.ส. โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และจัดตั้งสำนักงาน ป.ป.ส. ขึ้นเป็นหน่วยงานกลางรับผิดชอบโดยตรง มีฐานะเป็นกรม กรมหนึ่งในสำนักนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันสำนักกระทรวงยุติธรรม ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่อมา สำนักงาน ป.ป.ส. ได้นำมติเรื่องวันต่อต้านยาเสพติดขององค์การสหประชาชาติเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2531 ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กำหนดวันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันต่อต้านยาเสพติดโดยเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 เป็นต้นมา... บทบาทของประเทศไทยในการต่อต้านยาเสพติด ประเทศไทยในฐานะส่วนหนึ่งของประชาคมโลก ก็ได้ให้ความสำคัญกับการรณรงค์ใน วันต่อต้านยาเสพติดโลก มาโดยตลอด และมีการจัดกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่องในทุกปี โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทรวงสาธารณสุข และภาคประชาสังคม ได้ร่วมกันดำเนินงานตามเจตนารมณ์ของสหประชาชาติ เพื่อให้ปัญหายาเสพติดลดลง การดำเนินการของประเทศไทยครอบคลุมทั้งมิติการป้องกัน การปราบปราม การบำบัดฟื้นฟู และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมที่เข้มแข็งและห่างไกลจากยาเสพติดอย่างยั่งยืน Cr.Sanook.com
26 มิถุนายน 2568
11
แชร์
ประชาสัมพันธ์แจ้งขอความร่วมมือหลีกเลี่ยง ถนนสาย 2-5
ข่าวประชาสัมพันธ์จากกองช่าง ทต.แสลงพัน แจ้งผู้ใช้เส้นทางสาย หมู่ที่ 5 บ้านหนองกรด - หมู่ที่ 2 บ้านปึกสำโรง เนื่องจากสายทางดังกล่าว อยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมสร้างถนน ตามโครงการ : ซ่อมสร้างถนนลาดยางด้วยวิธี PAVEMENT IN - PLACE RECYCLING สายทางหลวงท้องถิ่น สบ.ถ. 840002 สายทางหมู่ที่ 2 บ้านปีกสำโรง - หมู่ที่ 5 บ้านหนองกรด ต.แสลงพัน อ.วังม่วง จ.สระบุรี ปริมาณงาน : กว้าง 6 เมตร ยาว 2,090 เมตร หนา 0.05 เมตร หรือมีพื้นที่ลาดยางไม่น้อยกว่า 12,540 ตารางเมตร จึงขอความร่วมมือทุกท่านโปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว เพื่อความปลอดภัย โดยสามารถเลี่ยงไปใช้ถนนสายทางหมู่ที่ 1 - 2 หรือ หมู่ที่ 2-1 แทน เทศบาลตำบลแสลงพัน จึงขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ #สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองช่าง โทร.036 730 441 ต่อ 03
24 มิถุนายน 2568
13
แชร์
ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ช่วยกันเฝ้าระวังการโจรกรรมทรัพย์สินของทางราชการ
แขวงทางหลวงสระบุรี ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ช่วยกันเฝ้าระวังการโจรกรรมทรัพย์สินของทางราชการ ด้วยอุปกรณ์งานทางของแขวงทางหลวงชนบทสระบุรี ได้ถูกโจรกรรมเป็นประจำ ทำให้สูญเสียงบประมาณในการซ่อมแชมอุปกรณ์งานทางที่ถูกโจรกรรมเป็นจำนวนมาก ประกอบกับงบประมาณของแขวงทางหลวงมี จำกัด และมีการลักขโมยบ่อย จึงไม่สามารถซ่อมแซมให้ใช้งานได้ทันตามความเสียหาย ส่งผลให้ในหลายพื้นที่ไฟฟ้าแสงสว่างดับประชาชนได้รับความเดือดร้อนไม่สะดวกในการเดินทาง และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่สัญจรไปมาบนทางหลวง นั้น แขวงทางหลวงสระบุรีได้ฝากให้เทศบาลตำบลแสลงพัน ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ทราบ เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่ และลดปัญหาการร้องเรียน ทั้งนี้ จึงขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันสอดส่องพฤติกรรมที่น่าสงสัย พบเห็นการโจรกรรม หรือทราบเบาะแสการโจรกรรม หม้อแปลงไฟฟ้า, สายไฟฟ้า และชินส่วนอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง, ป้ายและเสาเหล็กฯ โปรดแจ้งสายด่วนกรมทางหลวง โทร 1586 แจ้งสถานีตำรวจในพื้นพื้นที่รับผิดชอบ โทร 191 โดยเร็วที่สุดได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อลดการโจรกรรมทรัพย์สินของกรมทางหลวงในพื้นพื้นที่จังหวัดสระบุรี
19 มิถุนายน 2568
14
แชร์
กองคลัง เทศบาลตำบลแสลงพัน ประกาศรับสมัคร “พนักงานจ้างเหมาบริการรายเดือน” จำนวน 1 อัตรา
เทศบาลตำบลแสลงพัน ประกาศรับสมัครงาน ด่วนมาก!!! กองคลัง เทศบาลตำบลแสลงพัน ประกาศรับสมัคร “พนักงานจ้างเหมาบริการรายเดือน” จำนวน 1 อัตรา ค่าจ้าง 9,500 บาท/เดือน ในตำแหน่ง ผู้ช่วยงานบันทึกข้อมูลงานทะเบียนภาษี โดยมีคุณสมบัติ ดังนี้ - วุฒิ ปวช./ปวส. ขึ้นไป - สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ หรือบัญชี หรือมีประสบการณ์การทำงานด้านการจัดเก็บรายได้ มีความสามารถด้าน คอมพิวเตอร์หรืองานการเงินและบัญชี มีประสบการทำงานเอกสาร งานคีย์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ มีจิตบริการ #จะพิจารณาเป็นพิเศษ -ขอให้มีใจรักการทำงาน รักการบริการประชาชน มีจิตสาธารณะ -ไม่จำกัดเพศ/อายุ ท่านใดสนใจ ติดต่อสัมภาษณ์งานได้ที่ กองคลัง เทศบาลตำบลแสลงพัน โทรสอบถามได้ที่ 036 730 441 ต่อ 02 หรือ 062 5959531 สมัครได้ตั้งแต่วันที 17-20 มิถุนายน 2568 เวลา 08.30 -16.30 น. ณ สำนักงานเทศบาลตำบลแสลงพัน กองคลัง งานพัฒนารายได้
17 มิถุนายน 2568
44
แชร์
จ่ายช้า มีค่าปรับ และเงินเพิ่มการชำระภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2568
จ่ายช้า มีค่าปรับ และเงินเพิ่มการชำระภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2568 กำหนดชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ชำระถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 หากเกินกำหนดต้องชำระ เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม 1. ชำระ #ก่อนออกหนังสือแจ้งเตือนการชำระภาษี เบี้ยปรับ 10 % เงินเพิ่ม 1 % 2. ชำระ #ภายในวันที่กำหนดไว้ในหนังสือแจ้งเตือน เบี้ยปรับ 20 % เงินเพิ่ม 1 % 3. ชำระ #เกินวันที่กำหนดไว้ในหนังสือแจ้งเตือน เบี้ยปรับ 40 % เงินเพิ่ม 1 % ผ่อนชำระภาษียอด 3,000 บาท ขึ้นไป ผ่อนได้ 3 งวด ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 062-595 9531 งานพัฒนารายได้ กองคลังเทศบาลตำบลแสลงพัน หากต้องการชำระภาษีออนไลน์ ง่ายนิดเดียว!!! เมื่อได้รับหนังสือแจ้งประเมินภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 1. ตรวจสอบเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในเอกสารภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หนังสือแจ้งประเมินภาษี (ภ.ด.ส. 6) 2.ใช้โทรศัพท์มือถือของท่านเปิดแอพธนาคารของท่าน 2.1.เลือกบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 2.2.ใส่เลขที่บัญชี 01-707-210030-2 ชื่อบัญชี เทศบาลตำบลแสลงพัน 2.3. ใส่จำนวนเงินค่าภาษีที่ได้รับแจ้งกดยอดชำระเงินให้ตรงตามเอกสารแจ้งประเมิน(ไม่ต้องปัดเศษสตางค์) 3. ช่องทางแจ้งการชำระ สามารถแจ้งผ่านทางไลน์ ID : sjkiki หรือ ID : slp213 4. เมื่อชำระเรียบร้อยแล้วรอรับเอกสารใบเสร็จทางไปรษณีย์ที่แจ้งไว้ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 062 595 9531 หรือ 036 730 441 ต่อ 02 กองคลัง งานพัฒนารายได้
11 มิถุนายน 2568
75
แชร์
วันทะเลโลก หรือ วันมหาสมุทรโลก (World Ocean Day) ตรงกับวันที่ 8 มิถุนายนของทุกปี
วันทะเลโลก หรือ วันมหาสมุทรโลก (World Ocean Day) ตรงกับวันที่ 8 มิถุนายนของทุกปี เพื่อเป็นการตระหนักถึงความสำคัญของท้องทะเลและมหาสมุทร ให้ทุกคนใส่ใจ และร่วมกันอนุรักษ์ ที่กำหนดขึ้นมาอย่างเป็นทางการโดยสหประชาชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2552 ค่ะ จากงานวิจัย ระบุว่าในปี 2568 หากเราไม่ลงมือทำอะไรเลย จะมีขยะพลาสติก 1 ต่อ 3 ของปลาในทะเล ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และห่วงโซ่อาหารของคนทั้งโลกใน ทั้งไมโครพลาสติก การปนเปื้อน และการขาดแคลนอาหาร แล้วเราจะช่วยอนุรักษ์ท้องทะเลได้อย่างไรบ้าง ? ทุกคนมาร่วมกันปกป้องท้องทะเลและมหาสมุทรของเรา เนื่องในวันทะเลโลกกันค่ะ แยกขยะให้เป็นนิสัย ทั้งเศษอาหาร กระดาษ หรือถุงพลาสติก ไม่ว่าเราจะทิ้งขยะอยู่ที่ใด หากเราไม่แยกขยะหรือทิ้งไม่เป็นที่ ขยะเหล่านั้นจะไหลลงแม่น้ำ และลงสู่ทะเลในที่สุด หากสัตว์ทะเลกินเข้าไปก็จะเกิดอันตรายต่อชีวิต เพราะพวกมันไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่อาหาร หากเราไปเที่ยวทะเล อย่าจับสัตว์ทะเล หรือบ้านของสัตว์ทะเลกลับมา เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง สัตว์ทะเลบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์ป่าสงวน หากจับกลับมาจะมีโทษทางกฎหมาย หรือไปเที่ยวดำน้ำเพื่อชมปะการัง เราไม่ควรสัมผัส หรือจับสัตว์ทะเล พืชทะเล เพราะถือเป็นการทำร้ายสัตว์และพืชทะเลโดยตรง หลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่ส่งผลกระทบต่อปะการัง เนื่องจากปะการังมีความอ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อม เมื่อสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย ทำให้สูญเสียสาหร่าย (Zooxanthellae) ที่เป็นพลังงานหลักของปะการัง เมื่อไม่มีสาหร่าย ปะการังก็จะไร้ซึ่งสีสันและฟอกขาวไปในที่สุด การปล่อยโคมลอย ลูกโป่ง ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สัตว์ทะเลตาย เพราะเมื่อมันตกลงสู่ทะเล ก็จะกลายเป็นขยะพลาสติก และเกิดปัญหาที่สัตว์ทะเลเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาหารได้ มีจิตสำนึกที่ดีต่อระบบนิเวศทางทะเล หากเราเห็นความสำคัญของทะเล ว่าเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สำคัญมาก ประกอบไปด้วยสัตว์และพืชทะเลต่าง ๆ รวมถึงมีความอ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อม ก็จะทำให้เราตระหนัก และร่วมกันอนุรักษ์ท้องทะเลให้คงความสมบูรณ์ต่อไปค่ะ หากมนุษย์ใช้ทรัพยากรทางทะเลจนหมด จะทำให้เกิดผลกระทบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสภาวะอากาศแปรปรวน ความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม รวมถึงปัญหาการจ้างงานของชาวประมง ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีความสำคัญขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งการพบขยะในทะเล ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม ต่อระบบนิเวศ และส่งผลกระทบโดยตรงต่อสัตว์และพืชทะเล เกิดการบาดเจ็บและอาจตายในที่สุด เมื่อเราเห็นความสำคัญของสัตว์และพืชทะเล เราจะไม่มองว่าการอนุรักษ์ท้องทะเลเป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป
6 มิถุนายน 2568
142
แชร์
เทศบาลตำบลแสลงพัน ร่วมเป็นกำลังใจให้เหล่าบรรดาทหารหาญผู้ทำหน้าที่ปกป้องดินแดนอธิปไตยของประเทศไทยที่พวกเรารัก ไปด้วยกัน
#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เทศบาลตำบลแสลงพัน ร่วมเป็นกำลังใจให้เหล่าบรรดาทหารหาญผู้ทำหน้าที่ปกป้องดินแดนอธิปไตยของประเทศไทยที่พวกเรารัก ไปด้วยกัน
5 มิถุนายน 2568
80
แชร์
ประกาศอำเภอวังม่วง เรื่อง เรียกประชุมสภาเทศบาลตำบลแสลงพัน ครั้งแรก
ประกาศอำเภอวังม่วง เรื่อง เรียกประชุมสภาเทศบาลตำบลแสลงพัน ครั้งแรก ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีมติเห็นชอบแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี โดยกำหนดให้วันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เป็นวันเลือกตั้ง และผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดสระบุรีได้เห็นชอบให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลแลแสลงพัน ประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลแสลงพัน และนายกเทศมนตรีตำบลแสลงพัน กรณี ดำรงตำแหน่งครบวาระในวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๘ และได้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งดังกล่าวเสร็จสิ้นไปแล้ว เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘ นั้น บัดนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีมติเห็นชอบให้ประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล ตำบลแสลงพัน จำนวน ๑๒ คน ครบตามจำนวนแล้ว ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ผลการเลือกตั้ง สมาชิกสภาเทศบาล อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี ลงวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ นายอำเภอวังม่วงจึงอาศัยอำนาจ ตามความในมาตรา ๒๔ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.ศ. ๒๔๙๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบคำสั่ง จังหวัดสระบุรี ที่ ๓๑๔/๒๕๖๘ เรื่ยง การมอบอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ลงวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๘ กำหนดให้สมาชิกสภาเทศบาลตำบลแสลงพันมาประชุมสภาเทศบาลตำบลแสลงพัน ครั้งแรก ในวันศุกร์ที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๘ เวลา ๑๓.๓๐ น. ณ ห้องประชุมสภาเทศบาลตำบลแสลงพัน อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ (นายประกาศิต สาณะเสน) นายอำเภอวังม่วง ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี
30 พฤษภาคม 2568
75
แชร์
วันสิ่งแวดล้อมโลก 2568 - 5 มิถุนายน
วันสิ่งแวดล้อมโลก 2568 ตรงกับวันพฤหัสบดี ที่ 5 มิถุนายน ทุกวันนี้เราคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งแวดล้อมของโลกกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติ...ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เห็นได้ชัดจากสภาพอากาศที่แปรปรวนผิดปกติ ร้อนมาก หนาวมาก และฤดูกาลต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมไปถึงปัญหาโลกร้อนที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น...ซึ่งเป็นสัญญาณ บ่งบอกและกระตุ้นให้คนทั่วโลกหันมาใส่ใจกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกันอย่างจริงจังเสียที....! ความเปลี่ยนแปลงทางด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติ (UN) จึงกำหนดให้วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี เป็น "วันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day)" และได้มีการสถาปนาวันสิ่งแวดล้อมขึ้นเป็นครั้งแรก ปี พ.ศ. 2515 โดยในปีนี้ได้กำหนดให้มีคำขวัญว่า "ความหลากหลายทางชีวภาพ กู้วิกฤติชีวิตโลก (Many Species One Planet One Future)" สำหรับประเทศไทยเอง ก็ได้ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม จึงได้มีการตรากฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมขึ้นในปี 2518 เป็นฉบับแรก เรียกว่า พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พุทธศักราช 2518 ต่อมาได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติฯ ฉบับที่ 2 ปี พ.ศ.2521 และแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 3 พ.ศ.2522 ต่อมาในสมัยรัฐบาลของนายอานันท์ ปันยารชุน ได้มีร่างพระราชบัญญัติฯ ขึ้นใหม่ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2535 เรียกว่า พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กรมควบคุมมลพิษ และกรมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเห็นความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อม และจากการสำรวจของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เรื่อง "ความคิดเห็นของประชาชนกับสิ่งแวดล้อมในวันนี้" ช่วงระหว่างวันที่ 2-3 มิถุนายน ที่ผ่านมา พบว่า มีประชาชนถึง 55.06% ที่ไม่ทราบว่า วันที่ 5 มิถุนายน คือ วันสิ่งแวดล้อมโลก ขณะที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมของโลกที่ประชาชนคิดว่ารุนแรงที่สุด 3 อันดับแรก ประกอบด้วย ภาวะโลกร้อน อุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น 68.22% การเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่าไม้ ถูกทำลาย 8.80% ปัญหามลพิษทางอากาศ ฝุ่น การปล่อยควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ไฟไหม้ป่า ภูเขาไฟระเบิด 8.80% และปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศที่รุนแรงมากที่สุดในความเห็นของคนไทย 3 อันดับแรก คือ ภาวะโลกร้อน อุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น 27.26% การเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่าไม้ ถูกทำลาย 20.72% และปัญหามลพิษทางอากาศ ฝุ่น ควันจากการจราจร โรงงานอุตสาหกรรม ไฟไหม้ป่า 20.25% นอกจากนี้ยังมองว่าโอกาสและความเป็นไปได้ที่โลกจะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้ มีสูงถึง 31.39% ที่เชื่อว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้ค่อนข้างมาก เพราะมีเหตุแผ่นดินไหวบ่อยครั้งในรอบปี สภาพอากาศที่แปรปรวน ร้อนจัด เกิดอุทกภัยอย่างหนักทั่วโลก วิกฤติสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่า ใครคนใดคนหนึ่ง จะสามารถแก้ไขได้ ดังนั้น การจะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะต้องช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ... ด้วยการช่วยกันประหยัดทรัพยากรที่อยู่รอบ ๆ อย่างน้ำ ไฟ ควรใช้อย่างคุ้มค่า ช่วยกันลดปริมาณขยะ ไม่ตัดไม้ทำลายป่า และไม่ทำสิ่งใดที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ทางน้ำ และทางเสียง รวมทั้งช่วยกันปลูกป่า ปลูกต้นไม้ เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโลกของเรา เพียงเท่านี้ ก็สามารถช่วยให้สิ่งแวดล้อมที่ดี อยู่กับเราไปได้อีกนาน...^^ ประวัติวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน ของทุกปี ถือเป็น วันสิ่งแวดล้อมโลก "World Environment Day" และได้มีการสถาปนาวันสิ่งแวดล้อมขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2515 หรือเมื่อราว 33 ปีที่ผ่านมา โดยได้ทำการจัดการประชุมที่เรียกว่า "การประชุมสหประชาชาติเรื่องสิ่งแวดล้อม" (UN Conference on the Human Environment) ณ กรุงสตอกโฮม ประเทศสวีเดน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมพิจารณาหามาตรการในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ต่างๆ ที่แต่ละประเทศสมาชิกกำลังประสบอยู่อย่างเร่งด่วน ซึ่งประเด็นสำคัญในการหารือก็คือ ทุกๆ ประเทศสมาชิกต่างต้องสรรหาวิธีการดูแลแก้ไขปัญหา และให้ความตื่นตัวเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมของทุกภูมิภาคทั่วโลก อย่างจริงจัง ภายใต้การกำกับดูแลของ องค์การสหประชาชาติ (United Nations) ความเป็นมาวันสิ่งแวดล้อมโลก วันที่ 5 -16 มิถุนายน พ.ศ. 2515 สหประชาชาติร่วมกับรัฐบาลประเทศสวีเดน ได้จัดการประชุมที่เรียกว่า "การประชุมสหประชาชาติเรื่องสิ่งแวดล้อมของมนุษย์" (UN Conference on The Humen Environment) ที่กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน โดยใช้เวลาเตรียมการประชุมครั้งนี้ถึง 3 ปี เพื่อจัดทำร่างข้อเสนอต่างๆ รวมทั้งแผนดำเนินการและปฏิญญาว่าด้วยสิ่งแวดล้อมของมนุษย์ มีผู้เข้าร่วมประชุม 1,200 คน จาก 113 ประเทศ ผู้สังเกตุการณ์มากกว่า 1,500 คน จากหน่วยงานรัฐ องค์กรเอกชนและสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ รวมทั้งตัวแทนเยาวชนและกลุ่มนักศึกษาจากทั่วโลก ผลการประชุมนับว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เพราะเป็นครั้งแรกที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้หันหน้าเข้าหากันเพื่อร่วมขจัดภยันตรายด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลัง คุกคามของเรา ดังนั้น เพื่อเป็นการระลึกถึงจุดเริ่มต้นของการร่วมมือระหว่างชาติทั่วโลก จึงได้มีการกำหนดให้วันแรกของการประชุม คือ วันที่ 5 มิถุนายน เป็น "วันสิ่งแวดล้อมโลก" (World Environment Day)พร้อมทั้งได้จัดตั้ง "โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ" หรือเรียกย่อว่า "ยูเนป" (UNEP : United Nation Environment Programe) ขึ้น ซึ่งรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ก็ได้รับข้อตกลงจากการประชุมคราวนั้น และจัดตั้งหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นในประเทศของตน ซึ่งในปี 2547 โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาติ ได้กำหนดหัวข้อการรณรงค์ เพื่อใช้ร่วมกันทั่วโลกว่า Wanted ! Sea and Oceans - Dead or Live ? "ร่วมพิทักษ์ ร่วมรักษ์ทะเลไทย" ความเป็นมาของวันสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย สำหรับในประเทศไทย มีการตรากฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมขึ้นในปี 2518 เป็นฉบับแรก เรียกว่า พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พุทธศักราช 2518 ต่อมาได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติฯ ฉบับที่ 2 ปี พ.ศ.2521 และแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 3 พ.ศ.2522 ต่อมาในสมัยรัฐบาลของนายอานันท์ ปันยารชุน ได้มีร่างพระราชบัญญัติฯ ขึ้นใหม ่โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน2535 เรียกว่า พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กรมควบคุมมลพิษ และกรมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พุทธศักราช2535 เป็นพระราชบัญญัติที่มุ่งกระจายอำนาจของการวางแผนและปฏิบัติการการสิ่งแวด ล้อมลงสู่ท้องถิ่นและให้ความสำคัญในเรื่องของเรื่องของการติดตาม ตรวจสอบ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการควบคุมมลพิษ ดังนั้น การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม จึงถือเป็นหน้าที่ของทุกๆ คน ที่จะต้องร่วมมือกันเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ มีหน้าที่ติดตามและประเมินผลการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางด้านสิ่ง แวดล้อม รวมทั้งกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ทางที่ดี โดยมีความห่วงใยในเรื่องของ ดิน น้ำ มลพิษทางอากาศ ในฐานะที่ทำหน้าที่กระตุ้นเพื่อให้มีการปฏิบัติทางสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม และเพื่อให้เป้าหมายบรรลุผล จึงได้กำหนดวิธีการไว้ ดังนี้คือ 1.การสร้างความตื่นตัวในการเรียนรู้ เรื่องของสิ่งแวดล้อม และให้การศึกษากับประชาชนและนิสิตนักศึกษาทั่วไป 2.ให้การสนับสนุนทางวิชาการเผยแพร่ เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เพื่อจะได้กระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี 3.ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมเสริมสร้างให้ สถาบันและคนในสถาบันตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมต่อไป นอกจากนี้แล้วผลจากการประชุมรัฐบาลของประเทศต่างๆ ได้รับข้อตกลงจากการประชุมมาดำเนินการจัดตั้ง หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นในประเทศของตน รวมทั้งประเทศไทย รัฐบาลได้ตราพระราชบัญญัติส่งเสริม และรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2518 และก่อตั้งสำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติขึ้น เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 อันเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย ต่อมาในปี พ.ศ. 2535 ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของสำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเป็น 3 หน่วยงาน คือ 1.กรมควบคุมมลพิษ 2.กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม 3.สำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม สถาบันการศึกษากับสิ่งแวดล้อม ในส่วนของสถาบันการศึกษาก็ ได้มีการจัดสอนหลักสูตรด้านสิ่งแวดล้อมขึ้น ในหลายๆ มหาวิทยาลัย ซึ่งนับได้ว่าเป็นก้าวสำคัญของการตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งบทบาทของสื่อมวลชนก็ได้ทำหน้าที่ส่งเสริม และเกื้อหนุนให้เกิดความตื่นตัวและสนใจกับปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวาง มากขึ้น นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มนุษยชาติมีความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยกันทั้งสิ้น เพราะทุกชีวิตต้องอาศัยสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยในการดำเนินชีวิต มนุษย์ พืช สัตว์ ทุกชีวิตจำเป็นต้องพึ่งพาสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรา รวมถึงสิ่งที่มนุษย์คิดค้นสร้างขึ้นเพื่อความสะดวกสบาย และจาก พฤติกรรมของมนุษย์ ถ้าจำกัดอยู่เพียงเพื่อดำรงชีวิต ปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันคงจะไม่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากทรัพยากรธรรมชาติมีอย่างจำกัด และทิศทางการพัฒนาประเทศต่างๆทั่วโลกมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม จึงทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรต่างๆอย่างมากมายเพื่อผลิตสินค้า การพัฒนาประเทศก็นำไปสู่การเกิดภาวะมลพิษในที่สุด ซึ่งปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลสะท้อนกลับมาคุกคามการดำรงชีวิตของมนุษย์เอง ในรูปของวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงเวลาแล้วที่หมู่มวลมนุษยชาติควรจะมาร่วมรณรงค์และ ประหยัดทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ร่วมมือร่วมใจกันรักษาสภาพแวดล้อมให้ดีต่อไปในอนาคต เพื่อลูกหลานของเรา โดยที่เรามาช่วยกันเสริมสร้างปลูกจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างทัศนคติในการอนุรักษ์ทรัพยากรกลับมาใช้อย่างรู้คุณค่า เราทุกคนควรมีส่วนช่วยลดปริมาณขยะและรักษาทรัพยากรสิ่งแวดล้อมให้สดใส สมบูรณ์สำหรับทุกคนในอนาคต
29 พฤษภาคม 2568
150
แชร์
แจ้งวันหยุดเดือนมิถุนายน 2568
เทศบาลตำบลแสลงพัน ขอแจ้งวันหยุดราชการ เดือน มิถุนายน 2568 วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน วันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ วันอังคารที่ 3 มิถุนายน วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โดยจะเปิดทำการตามปกติในวันพุธที่ 4 มิถุนายน 2568 แจ้งเหตุด่วน และงานประปา ให้บริการตามปกติ โทร. 081 851 1611 หรือ 062 595 9531
28 พฤษภาคม 2568
92
แชร์
«
‹
›
»
ไปที่หน้า
12 รายการ/หน้า
24 รายการ/หน้า
36 รายการ/หน้า
แผนผังเว็บไซต์ |
ช่วยเหลือ |
นโยบายของเว็บไซต์ |
นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัย |
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
Copyright 2024
salaengphan.go.th
All rights reserved
Powered by
CityVariety Corporation.